บันทึกประจำวัน ย้ำลูกพี่ลูกน้อง อสม. โดนคำบัญชานอกจากภารกิจ “ไม่ต้องไป” ลั่น นักการเมืองผู้ใดกันทำก็โง่มาก
จากในกรณีที่มีการเผยแพร่หนังสือหลักเกณฑ์อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อำเภอท้องนาทวี จังหวัดจังหวัดสงขลา ให้ร่วมกิจกรรมการลงพื้นที่ของนายศักดาประเทศไทย ใกล้ถูกใจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 27 เดือนสิงหาคม แล้วต่อจากนั้น นายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา รองผู้ประกาศพรรคพึงใจไทย (ภท.) อธิบายว่า ไม่ใช่หลักเกณฑ์คนไปต้อนรับรัฐมนตรี แม้กระนั้นเชิญชวนทุกฝ่ายที่เกี่ยวพัน อาทิเช่น หน่วยงานดูแลส่วนท้องถิ่น หัวหน้าสตรี พสกนิกรทั่วๆไป รวมทั้ง อสม. ในฐานะผู้แทนประชาชนในชุมชนได้ร่วมฟังแล้วก็สะท้อนความเห็นในโครงงานก่อสร้างถนนหลวงของ จังหวัดจังหวัดสงขลา รวมทั้งโครงงานสำคัญต่างๆที่กระทรวงคมนาคมกำลังปฏิบัติงาน
ตอนวันที่ 27 ส.ค. นายบันทึกประจำวัน ชาญวีรกูล รองนายกฯและก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตอบปัญหาผู้รายงานข่าวถึงหัวข้อดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ตนรับรองว่าการกฏเกณฑ์ อสม.ไปเพื่อร่วมกิจกรรมของพรรคการเมือง หรือไปต้อนรับคนใดกันแน่ที่ไม่ใช่ส่วนงานของกระทรวงสาธารณสุขควรต้องไม่เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด ซึ่งตนได้สั่งย้ำอีกทั้งปลัดกระทรวงสาธารณสุข และก็ย้ำกับ อสม. ว่าถ้ามีการเชิญชวนญาติ อสม.ในลักษณะกิจกรรมที่นอกจากภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข อสม.สามารถไม่ยอมรับการร่วมได้อย่างแน่แท้
“ถ้าหากมีคนไปกฏเกณฑ์ญาติพี่น้อง อสม. ด้วยคำบัญชาโดยไม่ถูกต้อง ญาติ อสม. เจ้าหน้าที่รัฐไม่ต้องไปปฏิบัติตาม ไม่ต้องมา ซึ่งท่านอำนาจประเทศไทย ผมเอง รวมทั้งผู้ที่มีวุฒิภาวะก็จะไม่ทำเรื่องทึ่มๆอย่างนี้แน่ๆ หากนักการเมืองเป็นคนทำเรื่องอย่างงี้ ก็เป็นการทำที่โง่มาก” นายไดอารี่กล่าว
เมื่อถามคำถามว่าสังคมตั้งข้อคิดเห็นว่าเมื่อใดก็ตาม รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขลงพื้นที่ ก็จะมี อสม.มารอรับกว่าพันคน นายสมุดบันทึกพูดว่า อย่าใช้คำว่าไปรอคอยรับ เนื่องจากว่าไม่มีผู้ใดจำเป็นต้องมารับตน มีแต่ว่าตนที่จำเป็นต้องไปคอยฟังข้อคิดเห็นของคนภายในพื้นที่ในฐานะ รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ซึ่งครั้งใดก็ตามไปลงพื้นที่ ญาติพี่น้อง อสม.ก็มาบอกกล่าวเหตุที่เกิดขึ้นในชุมชน ด้วยเหตุว่าเขาเป็นแพทย์ผู้ที่ 1 ของคนประเทศไทย ตามแผนการ 3 แพทย์ ด้วยเหตุนี้ ในเวลาที่ญาติ อสม. พบอะไรมา เขาก็มาสะท้อนให้พวกเราทราบ ไม่ใช่ไปเพื่อต้อนรับรัฐมนตรี
“หัวข้อนี้ผมเคยพูดถึงมาแล้ว บอกญาติ อสม.ไปแล้วว่า หากคำบัญชาโดยรังเกียจ บอกให้แด่ท่านมาต้อนรับคนไหน ท่านไม่ต้องมา เว้นแต่ไม่ต้องมาแล้ว ก็ขอให้แจ้งมาด้วยว่าคำบัญชานั้นมาจากไหน พวกเราจะได้ทราบกันไปเลย” นายไดอารี่กล่าว