‘การติดต่อสื่อสาร’ แถลงเนื้อหา เงื่อนขยายข้อตกลงสัมปทานแผนการรถไฟฟ้าสายสีเขียว


การติดต่อสื่อสาร แถลงเนื้อหา การขยายคำสัญญาสัมปทานแผนการรถไฟฟ้าสายสีเขียว รับรอง หนังสือตอบกลับความคิดเห็นจากการติดต่อสื่อสาร 3 คราวแรก เห็นดีเห็นงามแบบมีเงื่อนไข แต่ว่าจำเป็นต้องทำตามข้อบังคับ ระเบียบปฏิบัติ ความเห็น คณะรัฐมนตรี และก็ความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวให้ครบ เพื่อกำเนิดความแจ่มกระจ่าง โปร่งใสสำหรับเพื่อการปฏิบัติการ มีประโยชน์ต่อภาครัฐรวมทั้งสามัญชนเป็นหลัก
วันที่ 18 ก.พ. 2564 นายศุภชัย ใจสมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคยินดีไทย, นายชยธรรม์ พระพรหมศร ปลัดกระทรวงการติดต่อสื่อสาร, นายสรวงศ์ เพชรตาแมวดงษ์ รองปลัดกระทรวงการติดต่อสื่อสาร, นายกิตตำหนิพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง แล้วก็นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษา รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ร่วมแถลงข่าวชี้เเจงเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว กรณีฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภานิติบัญญัติฯ ห้อง 203 ห้องแถลงข่าวการติดต่อสื่อสารการ
พูดว่า ดำเนินโครงงานรถไฟฟ้าสายสีเขียว นั้น แบ่งเป็น 3 ส่วน เช่น ส่วนหลัก เป็นจากหมอชิต – อ่อนนุช แล้วก็สนามกีฬาแห่งชาติ – สะพานตากสิน ซึ่งจังหวัดกรุงเทพมหานครได้สัญญาสัมปทานแก่เอกชน เปิดให้บริการระหว่างปี พุทธศักราช 2542 – 2572 แล้วก็ถัดมาเมื่อปี 2555 ได้มีการเซ็นชื่อในสัญญาว่าจ้างเดินรถต่อช่วงเวลาระหว่างปี 2572 – 2585
นายสรเหล่ากอ กล่าวอีกว่า ในส่วนลำดับที่สอง เป็นส่วน อ่อนนุช – แบริ่ง แล้วก็สะพานตากสิน – บางหว้า ในส่วนนี้ จังหวัดกรุงเทพ ได้มีการมอบหมายให้ บริษํท กรุงเทวดาธนาคม จำกัด ซึ่งเป็นเทศวิสาหกิจของ กทม รับไปดูแลและก็จ้างเอกชนเดินรถ คำสัญญาหมดเกลี้ยงปี 2585 เหมือนกันกับส่วนหลัก และก็ในส่วนลำดับที่สาม เป็นส่วนต่อขยาย ที่มีปลายสายทางอยู่นอกเขตพื้นที่ของกรุงเทพฯ พูดอีกนัยหนึ่งตอนหมอชิต – ไปคูคต แล้วก็แบริ่ง – จังหวัดสมุทรปราการ คณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2551 และก็ 2556 ก็เลยได้มอบหมายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งวมวลชนที่เมืองไทย หรือ องค์การรถไฟฟ้ามหานคร เป็นคนรับปฏิบัติการก่อสร้าง
รองปลัดกระทรวงการติดต่อสื่อสาร บอกว่า ในห้วงช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ในปี 2558 เพื่อประโยชน์ของราษฎรสำหรับในการขึ้นรถรถไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ คณะกรรมการเรียบเรียงการจราจรทางบก ก็เลยได้ลงความเห็น ตอนวันที่ 10 เดือนมิถุนายน 2558 มอบหมายเห็นดีเห็นงามในวิธีการให้ กรุงเทพมหานคร เป็นผู้เดินรถยนต์ส่วนต่อขยายแผนการรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมทั้งมอบหมายให้ คค. สนทนากับ กรุงเทพมหานคร ในส่วนการจัดการจัดแจงเดินรถ โครงงานรถไฟฟ้าสวนลำดับที่สาม ดังกล่าวข้างต้น
พร้อมกับพูดจาแล้วก็หาบทสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องการเงิน ระหว่าง กระทรวงการคลัง จ.กรุงเทพฯ และก็การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่เมืองไทย แล้วก็เมื่อได้รายงานเรื่องดังที่กล่าวมาแล้วไปสู่การพิเคราะห์ของ คณะรัฐมนตรีช่วงวันที่ 1 เดือนมีนาคม 2559 คณะรัฐมนตรีได้ลงความเห็นมอบหมายให้ กรุงเทพมหานคร บริหารจัดแจงรายได้ แล้วก็ตั้งงบให้พอเพียงต่อการจ่ายหนี้ดังที่กล่าวมาแล้ว แล้วก็ระบุค่าโยสารให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับค่ายังชีพ
จนกว่า ทั้งยังสามหน่วยงานเป็นกระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง รวมทั้งกรุงเทพฯ ได้สนทนากันเป็นระเบียบสิ้นสุดก็เลยได้พรีเซ็นท์คณะรัฐมนตรี ตอนวันที่ 26 เดือนพฤศจิกายน 2561 ขอความเห็นการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ค่า 52,904.75 ล้านบาท โครงงานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้งคู่ตอนดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว
ซึ่ง คณะรัฐมนตรี ก็ได้ลงความเห็นเห็นดีเห็นชอบดังที่กระทรวงคมนาคมเสนอ แต่ว่าก็ได้ได้โปรดกรุณา สั่งย้ำ ให้กระทรวงคมนาคม แล้วก็จ.กรุงเทพฯ บูรณาการเชื่อมต่อแผนการรถไฟฟ้าสายต่างๆแล้วก็การกำหนดอัตราค่าแรกเข้า รวมทั้งอัตราค่าใช้จ่ายในการใช้โดยสารที่สมควร เที่ยงธรรม และไม่นำไปสู่ภาระหน้าที่ต่อประชากรผู้รับบริการมากเกินความจำเป็น และให้เร่งรัดทำงานเรื่องระบบตั๋วร่วมให้เสร็จอย่างเร็ว ดังนี้ ให้ กรุงเทพมหานคร พิเคราะห์ระบุอัตราค่าแรกเข้ารวมทั้งระบบตั๋วร่วม ให้สอดคล้องกับหลักการรัฐบาล ตามมองเห็นของกระทรวงการคลัง ด้วย
สำหรับในกรณีที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่อง ขอความเห็นผลของการสนทนา และก็ร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงงานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามคำสั่ง คสช. ที่ 3/2562 ระบุวันที่ 11 เดือนเมษายน 2562 ได้มีการนำเข้าตรึกตรองใน คณะรัฐมนตรี มาแล้วหลายหน ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้มีหนังสือตอบกลับความคิดเห็นของกระทรวงทั้งสิ้น 4 ครั้ง โดยใน 3 คราวแรก เช่น ทีแรก ช่วงวันที่ 24 ต.ค. 2562 ครั้งลำดับที่สอง ตอนวันที่ 30 เดือนมีนาคม 2563 รวมทั้งครั้งลำดับที่สาม เป็นช่วงวันที่ 9 เดือนมิถุนายน 2563
“ทั้งยัง 3 หนแรก กระทรวงคมนาคมได้สนอความคิดเห็นว่า เหมาะสมเห็นดีเห็นงาม แต่ว่าจำเป็นที่จะต้องกระทำตามข้อบังคับ ระเบียบปฏิบัติ ความเห็นชอบ คณะรัฐมนตรี รวมทั้งข้อคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวโยงให้ครบถ้วนบริบูรณ์ เพื่อกำเนิดความแน่ชัด โปร่งใสสำหรับเพื่อการปฏิบัติงาน มีประโยชน์ต่อภาครัฐและก็พลเมืองเป็นหลัก”
นายสรตระกูล บอกว่า ถัดมา กรมการขนส่งทางราง องค์การรถไฟฟ้ามหานคร แล้วก็ผู้ที่มีความชำนาญด้านระบบรถไฟฟ้าต่างๆได้มีการสัมมนาปรึกษากัน แล้วก็ได้มีหนังสือของกรมการขนส่งทางราง รายงานมาที่กระทรวงคมนาคม รวมทั้งกระทรวงคมนาคม ได้มีหลักสำคัญความคิดเห็นเป็นครั้งที่ 4 เป็นการขยายความตามความคิดเห็นทั้งยัง 3 ครั้ง ของกรมการขนส่งทางราง องค์การรถไฟฟ้ามหานคร แล้วก็ผู้ชำนาญด้านระบบรถไฟฟ้าต่างๆรายงานไปยัง คณะรัฐมนตรี ตอนวันที่ 16 พ.ย. 2563 ได้กล่าวว่าได้พิจารณาถึงข้อสรุปแล้ว เหมาะมีความคิดเห็นเพิ่มอีก เพื่อประกอบกิจการพิเคราะห์ในเรื่องดังที่กล่าวมาข้างต้น ใน 4 หัวข้อ ดังต่อไปนี้
1.ข้อความสำคัญเรื่องความครบถ้วนบริบูรณ์ตามหลักทฤษฎีของพ.ร.บ.การร่วมทุนระหว่างเมืองรวมทั้งเอกชน พุทธศักราช2562
2.ข้อความสำคัญประเด็นการคิดอัตราค่าใช้จ่ายสำหรับโดยสารที่สมควร และก็ยุติธรรมแก่ราษฎรผู้รับบริการ
3.หัวข้อประเด็นการใช้ทรัพย์สินของเมืองให้กำเนิดคุณประโยชน์สูงสุด
4.หลักสำคัญเรื่องข้อโต้เถียงด้านกฎหมาย
ดังนี้ก็เพื่อความละเอียดถี่ถ้วน แล้วก็มีคุณประโยชน์สูงสุด แก่ราษฎร รวมทั้งคล้ายคลึงจากที่คณะรัฐมนตรีได้ขอความปรานีลงความเห็นมอบหมายไว้เพียงแค่นั้น กระทรวงคมนาคม ก็เลยขอให้ทุกฝ่ายด้วยกันบูรณาการการทำงาน โดยยึดผลตอบแทนของประเทศรวมทั้งพสกนิกรเป็นที่ตั้ง เพื่อนำไปสู่การพัฒนารถไฟฟ้าในราคาที่สมควร แล้วก็เอื้อต่อการใช้บริการเพื่อรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เป็นบริการที่ทุกคนเข้าถึงได้ซึ่งจะช่วยยกฐานะคุณภาพชีวิตของราษฎรอย่างยั่งยืน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *